Wednesday, May 20, 2009

La mia prima Birra : เบียร์แก้วแรก

เราไม่เคยกินเบียร์มาก่อน...

ไม่เคยรู้ว่ามันต่างจากเหล้ายังไง...แบบว่าเป็นเด็กดี...รู้แต่ว่า กินค็อกเทลแล้วไม่เมา แต่กินเหล้าแล้วเมา
แต่เราก็ไม่เคยเมาสักที กินเยอะสุดตอนไปที่นั่งเล่น แต่ก็กินผสม มันก็ไม่เมา จะเอาอะไรมาก
เรียกว่าแทบไม่เคยกินเหล้าเลยก็ว่าได้... นับครั้งได้เลยมั้ง หนึ่ง สอง สาม สี่
ตอนไปเชียงดาว ธันวาปีที่แล้ว พี่ชะยังถามเลยว่ากินเหล้าได้มั้ย เราก็ตอบอย่างแข็งขัน หนักแน่น และภูมิใจ...ไม่กินค่า
พี่ชะก็ถามว่า “ไม่กิน...เลยเหรอ” เราก็ส่ายหน้า “ไม่ค่ะ”
ก็เคยกินแล้วไม่ชอบ

ทีนี้เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ก่อนคลาสจะปิดวันนึง มาร์คกับพวกบราซิลก็ชวนไปดูฮอคกี้ที่บาร์ บอกว่าดูไม่เป็นก็ไม่เป็นไร ไปกันสนุกๆ เลิกเรียนเนี่ยก็ไปเลย


เรากับแซนดี้ เพื่อนสาวชาวเกาหลีปรึกษากันก็เลยตกลงไป เพราะน่าสนุกดี ที่สำคัญคือมาร์เซลโลโฆษณาว่าฮอทวิงร้านนี้อร่อยสุดๆ
พอเลิกเรียนหกโมงเย็นปุ๊บ ทั้งครูทั้งนักเรียนหลากหลายวัยก็เดินเรียงกันออกจากโรงเรียนซึ่งอยู่ใจกลางเมือง เลี้ยวซ้ายไปถนน Alberni ใกล้มาก นิดเดียวก็ถึง
ใกล้โรงเรียนมาก


บาร์นี่เปิดตั้งแต่เที่ยงจนถึงเที่ยงคืน หกโมงเย็นก็มีคนมานั่งรอดูฮอคกี้กันประปรายแล้ว โต๊ะที่เรานั่งก็มีกลุ่มที่เรียนคลาสที่สองด้วยกัน และก็มีพวกเพื่อนของโมฮัมหมัด กับเพื่อนของกีย์
โมฮัมหมัดเป็นคนซาอุฯ ส่วนกีย์ เป็นคนบราซิล เป็นโต๊ะที่นานาชาติมาก เพราะ มีหัวหน้าทีมคือมาร์ค อาจารย์หนุ่มวัยสามสิบห้า แต่หน้าตาราวคนอายุยี่สิบเจ็ด ชาวแคเนเดียนแท้ๆ


ถัดมาเป็นมาร์เซลโล หนุ่มบราซิลร่างท้วมผิวเข้ม หน้าตาเหมือนอายุยี่สิบห้า แต่ปรากฏว่าแก่กว่ามาร์คปีนึง แถมมีลูกตั้งสามคนแล้ว
ข้างๆ มาร์เซลโลคือโมฮัมหมัด หนุ่มอาหรับอายุยี่สิบแปด แต่แต่งตัวแนวเหมือนหนุ่มอายุยี่สิบสาม
มีแต่คนดูอ่อนกว่าวัยทั้งนั้น
นอกนั้นเป็นเพื่อนสาวอีกสองคนของโมฮัมหมัด แต่เป็นสาวบราซิล ส่วนหนุ่มอีกสองคนเป็นหนุ่มบราซิลเหมือนกัน เป็นเพื่อนของกีย์ คนนึงชื่ออะไรไม่รู้


อีกคนนึงชื่อกีย์...ชื่อเหมือนกีย์
แล้วก็มีแซนดี้ สาวเกาหลี อายุยี่สิบห้า แต่หน้าเหมือนอายุเท่าเรา (แปลว่าสาวอยู่)
แล้วก็มีสาวไทย ชื่อเพลิน...แต่เค้าเรียกกัน Supitcha
ข้างๆ สาวไทยคนนี้ก็คือ กีย์ ส่วนชื่อเต็มของกีย์ทั้งสองนี่อ่านยากมาก เราเพิ่งอ่านชื่อเค้าได้ในเอ็มนี่แหลt

และแน่นอนว่ากีย์เป็นคนบราซิล
โรงเรียนนี้มันเป็นอะไรมากหรือเปล่ากับคนซาอุ และคนบราซิล...แถมเกาหลีให้อีกหน่อยละกัน


สั่งฮอทวิง กับบาร์บีคิววิงมากิน มาร์เซลโลบอกว่าไม่เห็นเผ็ด แต่เมื่อวานมาร์คและกีย์ถึงกับปาดเหงื่อ เพราะ...เผ็ด
อร่อยนะ แต่ไม่เห็นเผ็ด คนไทยซะอย่าง ถ้าแค่นี้เผ็ดก็อายเด็กอนุบาล
กีย์มองเรากินฮอทวิงชิ้นที่สามแล้วไม่บ่นอะไรก็มองหน้า แล้วบอกว่า...
อย่างนี้เบียร์เธอจะไปหมดได้ยังไง...





เรื่องของเรื่องคือ ตอนแรกมาร์คถามว่ายู ดริงค์ได้หรือเปล่า เราก็บอกว่าได้ แต่ไม่มากนะ
แต่พอเห็นเขาสั่งเบียร์มาเป็น tower เราก็เริ่มอึ้ง เพราะ ไม่เคยกินเบียร์
นั่งนิ่งคิดอยู่สักแป๊บก็ส่งยิ้มหวานใส่อาจารย์ แล้วก็เผื่อแผ่ไปยังคนข้างๆ บอกว่า
I have never tried beer before.
กีย์กับมาร์คทำตาโต ถามว่า Really? So, this is your first beer?


เราก็พยักหน้า แล้วกีย์อีกคนที่เป็นเพื่อนของกีย์ (ขอเรียกกีย์แก่ กับกีย์เด็ก) ก็หันควับมา...Your first beer in Canada or in your whole life?


In my whole life ค่ะ


มีเสียงฮือฮากันทั้งโต๊ะ ทุกคนก็เลยตื่นเต้นกันใหญ่ กีย์ก็เอื้อมมือมาตบไหล่ แล้วบอกว่า...cool, you will like it.
ส่วนมาร์คก็บอกว่า ค่อยๆ กินก็แล้วกัน We don’t mind you getting drunk but I don’t want you to get drunk too fast. เพราะเบียร์มัน can go easy
เราก็เลยสงสัยว่า...กินเบียร์ละมันเมาเร็วเหรอ แรงเหรอ...ตายละวา



มาร์คก็ยิ้มบอกว่าไม่เป็นไร พวกเราทุกคนดูอยู่ จะช่วยสังเกตให้เอง ไม่ให้เราเมาเกินไป
แล้วก็หันไปบอกกีย์ว่า...เทคแคร์ออฟเฮอร์ ด้วยนะ



เราก็ยิ้มไปเรื่อย บอกว่า เราไม่เมาหรอก ไม่ต้องห่วงน่า
ทีนี้พอกีย์ส่งแก้วแรกให้เรา ทุกคนก็ลุ้นว่าเราจะชอบหรือเปล่า...กดดัน
อืม...รสชาติ ไม่เลวแฮะ




ฮอคกี้นี่เป็นกีฬาที่ดูเจ็บตัวชอบกล เคยเรียนตอนมอสี่แล้วเกลียดมาก...ไม้ก็หนัก ลูกก็เจ็บ ต้องใส่ตะกร้อครอบปากเหมือนหมาเลย
รู้สึกเหมือนพลาดนิดเดียวนี่เจ็บสาหัส
ผู้เล่นก็ต้องใส่เสื้อตัวใหญ่ๆ หนาๆ ไม่เห็นจะเท่เลย
แต่ที่นี่ฮิตกันมาก...ทีมของแวนคูเวอร์คือ Canucks มาตอนแรกสุพิชฌาย์ต้องทำงานพรีเซนต์สัญลักษณ์ทีมคานัคส์อ่ะ
จะรู้เรื่องไหมนั่น
นัดนี้สำคัญ คานัคส์แข่งกับ Black Hawk ของ Chicago คราวก่อนแข่งที่แวนฯ แต่นัดนี้แข่งที่ชิคาโก้
ทุกครั้งจะมีเสียงเฮ เสียงเชียร์ลั่นถนนไปหมด
เราดูไม่รู้เรื่องหรอก นั่งคุย นั่งกินฮอทวิง จิบเบียร์



แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมต้องกินแอลกอฮอล์ วงสนทนาจึงครึกครื้น...มันครึกครื้นขึ้นจริงๆ นะ ทั้งที่เราว่าเราก็ไม่เมา คนอื่นก็(ยัง)ไม่เมา แล้วทุกคนก็บอกว่าเราไม่เมา

กีย์ล่อไปแก้วที่ห้า มาร์เซลโลแก้วที่สี่ เรายังละเลียดยังไม่หมดแก้วเลย หันไปมองเกมส์ฮอกกี้ในจอ นั่นคานักส์ดูจะเสียท่าชิคาโก้เสียแล้วสิ

สักแป๊บหันไปเห็นมาร์ค เริ่มแก้วที่สาม หน้าเริ่มแดง เรากับแซนดี้ก็หันมามองหน้ากัน...อาจารย์เปรี้ยวดี
มาร์คเริ่มบ่นคานัคส์ที่ทำท่าจะเพลี่ยงพล้ำตลอด...ไม่นานก็เล่าเรื่องแฟนที่เป็นคนญี่ปุ่นให้ฟัง


ฝรั่งที่นี่ส่วนใหญ่เคยชินกับคนญี่ปุ่น คนเกาหลี
ส่วนใหญ่อาจารย์ฝรั่งก็มักจะเคยใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่น ครั้งละหลายๆ ปี...แล้วก็ชอบมีแฟนเป็นญี่ปุ่น
มาร์คก็มีแฟนญี่ปุ่น
แล้วก็เริ่มเล่าเรื่องแฟนตัวเองให้ฟัง กีย์เพื่อนกีย์ก็หันมาชวนเรากะแซนดี้คุย คุยกันรู้เรื่องมั่งไม่รู้เรื่องมั่ง แต่ก็เข้าใจกันดี หัวเราะกันครึกครื้น
สักแป๊บทั้งวงสนทนาก็คุยเรื่องเดียวกัน เริ่มไม่มีใครสนใจฮอคกี้


เบียร์เราหมดไปแล้วแก้วนึง ทุกคนเฮ โมฮัมหมัดก็เอาไปเติมให้อีกแก้ว
พวกบราซิลหันไปส่งภาษาโปรตุเกสใส่กัน เราก็ไม่ว่าอะไร ไม่รู้ทำไมรู้สึกเหมือนคุยกะมันรู้เรื่อง


กีย์หันมา นี่ช้านแก้วที่สิบแล้วนะ...รีบๆ กินอีกสิ
ฮอทวิงกะบาร์บีคิววิงหมดแล้ว...เกมส์ก็จบแล้ว ทุกคนเลยหันมาคอนเซนเทรตกับเบียร์เราเต็มที่
พอแก้วที่สองหมด มาร์เซลโลก็ถามว่าจะเอาอีกแก้วมั้ย...กีย์เพื่อนกีย์รีบบอกว่า...จะดีเหรอ ถ้าเพิ่งเคยกิน อย่ากินต่อเลย เดี๋ยวแย่...
จริงๆ มันก็ไม่ใช่ธุระของฉันหรอก แต่พูดจริงๆ นะ...เขาว่างั้น เราก็เลย feel guilty นิดหน่อยที่กะจะเริ่มแก้วที่สาม
กีย์ก็บอกให้เอาเลยๆ แต่กีย์เพื่อนกีย์ก็ห้าม เถียงกันไปมา โมฮัมหมัดดึงแก้วไปเติมให้ซะงั้น



เราเริ่มแก้วที่สาม แต่ tower เบียร์หมดไปสี่แล้ว
ค่อยๆ ละเลียดไป คุยไป อยู่ๆ กีย์เพื่อนกีย์ก็หันมาถามด้วยความสงสัยว่า...Why are you nursing your beer?
โอ้...ได้ศัพท์ใหม่ nurse beer...ค่อยๆ ดื่ม ไม่ดื่มให้หมดสักที
เราก็งงว่าตกลงจะให้เราดื่มรึเปล่า ไหนบอกว่าไม่ควรดื่มเยอะไง

เราหันไปหาแซนดี้ สังเกตว่าแซนดี้ยังไม่ได้เติมเบียร์เลยสักครั้ง เลยลองกระซิบถามว่า...นี่แก้วแรกอยู่เลยใช่มั้ย
สาวเกาหลียิ้มมีเลศนัย หัวเราะแหะๆ...ใช่ จริงๆ อยากดื่มนะ แต่ว่าดื่มทีไรใจสั่นทุกที เลยต้องดื่มน้อยๆ อย่างนี้ล่ะ
เราก็หัวเราะ...เนี่ย ทุกคนโฟกัสแต่ว่าเราไม่เคยกินเบียร์ เลยจ้องแต่จะดูว่าเรากินไปกี่แก้วแล้ว เมารึยัง เชียร์ให้กินอีกๆ ไม่มีใครสังเกตเลยว่าแก้วแรกเธอยังไม่หมด...


เพื่อนสาวเกาหลีหัวเราะอีกครั้ง พยักหน้าหงึกหงัก...ใช่ๆ เธออย่าไปบอกพวกเค้านะ
ไม่บอกหรอก ไม่บอก



เราไม่เมานะ แต่มันรู้สึกกำลังสบาย คุยกับใครก็สนุกไปหมด ฟังบราซิลส่งภาษาโปรตุเกสใส่กันยังอุตส่าห์ไปร่วมแจม
ร่วมแจมเพราะบังเอิญฟังออก...บางคำคล้ายภาษาฝรั่งเศส บางคำคล้ายภาษาอิตาเลียน...
ไปเจือกเรื่องเค้าว่างั้น
กีย์หันมามองหน้าเหวอ รู้ได้ยังไง...กินเบียร์ละเข้าใจปอร์ตุกีสเหรอ เราก็หัวเราะบอกว่า รู้ก็แล้วกัน


Tower เบียร์อันที่ห้ามาแล้ว ใครคนหนึ่งในโต๊ะก็พูดขึ้นมาว่า...

ทั้งหมดนี่ของสุพิชฌาย์

ทั้งโต๊ะก็เฮ...เราก็อึ้ง เอาละซี อย่ามายุหนูนะ
ไม่ทันไร ทุกคนก็ตะโกนประสานเสียงขึ้นพร้อมกันลั่นร้าน...โต๊ะอื่นคงรำคาญ

Supitcha…Supitcha…Supitcha
Take it…go on!

ไ ได้ข่าวว่าตัวตั้งตัวตีคนพูดคนแรก...คือมาร์ค แล้วมีไอ้กีย์สนับสนุน
ถ้าคิดว่าสุพิชฌาย์บ้ายุ ก็คงคิดผิด ก็แหงล่ะ ตั้ง tower คงไม่คิดว่าเราจะกินหมดหรอก…
เราก็เลยใช้วิธีแบบเพลินๆ ก็คือยิ้มเรี่ยราด ละก็หัวเราะเก้อๆ หันไปมองแซนดี้แบบ...บอกแล้ว เราโดนคนเดียว

แล้วอาจารย์คนดีก็บอกว่า...ถ้าสุพิชฌาย์กินเบียร์ได้ทั้งหมดนี่ จะเลี้ยง student ทั้งหมดเลย…(หมายความว่า เพื่อนของกีย์ที่ไม่ใช่นักเรียนมาร์คไม่เกี่ยว)


กีย์บราซิลตัวดีก็เลยรีบสวน ทำอย่างกับแย่งประมูลสินค้า

If she can finish all of the tower, I’ll pay for everyone…everyone really!
เพลินก็หันควับไปที่บราซิลตัวดีทันที...จะบ้าหรือไงฟะ

ทุกคนเฮ ส่งเสียง สุพิชฌาย์ สุพิชฌาย์


เราตาเขียวหันไปตีคนพูด (ตีกีย์ ไม่กล้าตีมาร์ค) เจ้าคนถูกตีก็เลยยิ่งนึกสนุก

Actually I will pay for everyone in the bar!

คราวนี้ไม่แค่เหวอ เราอ้าปากค้าง...

ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ทั้งโต๊ะร้องเฮ โต๊ะอื่นในร้านก็เฮด้วย...

เหลือบมองน้ำสีเหลืองใสในเหยือกแก้วใสทรงสูงยังปริ่มเต็มขอบ...มองไปที่แก้วใครก็เห็นแต่น้ำสีเหลือง...เหลือง...และเหลือง



สุดท้ายก็ไม่มีใครแกล้งเราจริงหรอก ฮ่าๆ

กีย์บอกว่าเดี๋ยวจัดการได้เองแหละ ส่วนกีย์เพื่อนกีย์ก็ไม่ยอมให้เรากินมากกว่านี้

มาร์คบอกว่า เรากินสามแก้ว ระดับความครึ้ม ครื้นเครงก็เท่าๆ กับคนอื่นที่กินหกเจ็ดแก้ว
ดังนั้น เรากินเท่านี้กำลังดีสำหรับคนเริ่มกิน เพราะถ้ากินปริมาณเท่ากัน เราเมาแน่

ส่วนกีย์แก้วที่สิบสี่ สิบห้า เริ่มเมาจริงจัง
โมฮัมหมัด มาร์เซลโล กีย์เพื่อนกีย์ และเพื่อนๆ คนอื่น แค่มึนๆ

ที่แน่ๆ แซนดี้ไม่มีอาการใดเลย


เออ...เบียร์นี่ก็อร่อยดีแฮะ ยิ่งได้คุยครึกครื้นกับเพื่อนยิ่งสนุก แต่ก็ยังแปลกใจอยู่ดีว่า เราไม่เมาสักหน่อย แต่ทำไมมันรู้สึกครื้นเครง

ไม่เมาจริงๆ เพราะยังไปกิน hot chocolate ต่อที่ Tim Hortons สุดเลิฟกับแซนดี้อยู่เลย

แล้วก็ยังไปนั่งแย่งเฟรนช์ฟรายโมฮัมหมัดกะมาร์เซลโลที่แมคโดนัลด์ได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร

เดินกลับบ้านได้อย่างไม่มีปัญหา ไม่พูดจาเพ้อเจ้อ

บอกแล้วว่าไม่เมา...ไม่เคยเมา อยากเมาจริงๆ ว่ามันจะเป็นยังไง
แต่คงไม่อยากเมาเบียร์หรอก เดี๋ยวอ้วน...



9 comments:

  1. เบียร์ไม่ค่อยเมาหรอกพี่เพลิน แต่อ้วน 555+

    แสดงว่าพี่เพลินคอแข็งนะเนี่ย ย

    555+

    ท่าทางน่าสนุกจังนะคะ ชอบอ่านๆๆๆ

    จะมาอ่านอีกนะค่ะ^^

    ReplyDelete
  2. เพลินน เห็นลิงค์ในเฟสบุ๊คเลยตามมาอ่านอะจ้า
    เราก็ยังไม่เคยกินเบียร์เหมือนกัน 55 ไม่ชอบกลิ่นมันอ่ะ เลยไม่เคยลองซักที

    ปล. ขอ follow นะจ๊ะ

    ReplyDelete
  3. กินเบียร์ไม่เมาจริงๆเพลิน
    แต่อืดและอ้วนมาก 5555
    ปีก่อน พวกผู้ชาย major เรามันชอบไปผับไปบาร์กันบ่อย
    มันก็ส่งมาอย่างงี้แหละ ครั้งละเกือบสิบเหยือก กินกันทั้งคืนเลย
    เรากินมั่งแต่ไม่บ่อย เพราะฟรีตลอด ฮ่าาๆๆ
    ส่วนมากจะกินพวก วิสกี้ มิกซ์ดริ๊ง อะไรก็ว่าไป
    คราวหน้า ถ้าได้กินอีก ลองของ James Squire นะ ไม่รู้ที่นู่นมีรึเปล่า
    เราว่ามันหวานๆ เหมาะกับผู้หญิงดี ;)

    ReplyDelete
  4. ข้างบนนี่ ยุ้ยเองนะ
    ^^

    ReplyDelete
  5. เริ่ดๆๆ ชอบชุดนี้อ่า

    ReplyDelete
  6. อ้อ อัพบล็อกแล้วนะจ๊ะ

    อยากรู้เรื่องไหนก็ไปปล่อยของไว้นะ

    ถ้าพี่คึกๆ ก็จะเขียนจ้า เอ่อ...แบบว่ารอให้คนถามค่อยตามอัพน่ะ

    จุ๊บๆ

    ReplyDelete
  7. ตอบคำถามของเพลินเรื่องการเปลี่ยนชื่อหนังสือนะจ๊ะ

    มีอยู่ 2 กรณี คือ
    หนึ่ง กรณีที่นักเขียนใหญ่มากกก มีอีโก้สูง หรือว่าชื่อที่ตั้งมานั้น มันไฮโซมากมาย ถูกใจ มีจุดขาย ก็ให้ใช้ชือนั้นเลยจ๊ะ
    สอง กรณีที่นักเขียนที่เราจ้างเขียนเอง หรือว่าเป็นหนังสือที่เราคิดพล็อตหรือโครงเรื่องให้ สำนักพิมพ์ก็จะพิจารณาตั้งชื่อเองจ๊ะ

    ทั้งนี้ทั้งนั้น การตั้งชื่อจะต้องแจ้งให้นักเขียนทราบด้วยว่า จะมีการเปลี่ยนชื่อ หรือว่าขอความเห็นร่วมในการตั้งชื่อให้โดนใจทั้งทางสำนักพิมพ์ นักเขียน รวมถึงฝ่ายการตลาดด้วยจ้าาาาา

    มีปัญหาถามมาได้ ชอบตอบ จุ๊บๆ

    ReplyDelete
  8. อะเฮือกกก อยากกิน

    ReplyDelete
  9. ไม่ชอบดื่มสุรา แต่ชอบบรรยากาศในการร่ำสุรา
    เหมือนพี่เลยจ้า

    ReplyDelete